วันศุกร์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2552

*****หมากชีวิต***** (นิทานปรัชญาชีวิต)

Pantip Theater ..... ภูมิใจเสนอ
หมากรุกบนกระดานชีวิต.....(โดยThe Rounder จาก พันทิพย์)
.................เช้าวันอาทิตย์ที่สบายๆวันหนึ่ง หลังจากอาหารเช้าแล้ว
เล้ง..ตั้งใจจะจัดตู้หนังสือ เพื่อวางแผนในการอ่านอย่างจริงจังเสียที
หลังจากที่เขาได้ซื้อหา สะสม ตลอดจน อ่านทิ้ง อ่านขว้าง
จบบ้างไม่จบบ้างเล่มแล้วเล่มเล่า
เท่าที่เวลาจะมีและโอกาสจะอำนวย............... มาหลายปี

หมายเหตุ : (เล้ง แปลว่า มังกร ชาวจีนนิยมตั้งชื่อให้กับบุตรชาย)

เล้งกำพร้าแม่มาตั้งแต่เด็ก
แม่เขาจากไปด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ ตอนเขาอายุเพียง 2 ขวบ
ทำให้เขาเป็นลูกโทนและอาศัยอยู่กับพ่อคนเดียวมาตั้งแต่เด็ก

..... หลังจากค่อยๆ รื้อหนังสือจากชั้นวางในตู้ออกมากองบนโต๊ะและตามพื้น
สักพัก........สาย ตาของเขาก็สะดุดกับกล่องหมากรุกจีนสภาพเก่าเก็บ
ในซอกด้านในของตู้ปะปนกับเหรียญรางวัลจากการแข่งขันกีฬาของเขา
เขาเพ่งมองอยู่นานด้วยความผูกพัน.... จากนั้น... ก็ค่อยๆดึงฝากล่องออก
แล้วก็พบกับกระดาษแผ่นพับสีขาวหม่นที่ตามขอบมีรอยวิ่น
พอหยิบกระดาษแผ่นพับนั้นออกมา ก็มองเห็นตัวหมากที่แกะจากไม้สีน้ำตาลอ่อนที่
ถูกคว้านผิวหน้าเป็นร่องลึกลงไป กลายเป็นตัวอักษรจีน .... ในรูปลักษณ์ต่างๆ มากมาย

ตัวหมากครึ่งหนึ่งถูกแต้มด้วย......................สีแดง
ตัวหมากอีกครึ่งหนึ่งถูกแต้มด้วย................สีเขียว

ขณะที่สายตาเขาเพ่งมองตัวหมากที่มีสภาพคล้ำหม่นนั้น.................
และแล้ว เขาก็ตกอยู่ในภวังค์
เหตุการณ์ในอดีตและภาพในปัจจุบันเกิดการทับซ้อนสลับไปสลับมา
ในห้วงความคิดคำนึงของเล้ง

ภาพความทรงจำ ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นช่วงตรุษจีนเมื่อประมาณ 20
กว่าปีที่แล้ว กลับเฉิดฉายอีกครั้งเหมือนหนังกลางแปลง

เขาเห็นภาพเด็กคนหนึ่ง ซึ่งขณะนั้นยังเป็นเด็ก......แต่ในปัจจุบันนี้กำลังเข้าสู่วัยกลางคน
มองเห็นสายตาคู่หนึ่ง................ซึ่งขณะนั้นกำลังไตร่ตรองกระดานหมากรุก

แต่ปัจจุบันนี้.......กำลังตรวจตรากระดานหุ้นอิเลคทรอนิคส์
ตรุษจีนปีนั้นเป็นช่วงที่เล้งปิดเทอมแล้ว และพ่อก็หยุดทำงานเนื่องจากเทศกาลดังกล่าว

ตอนนั้นเล้งอายุได้ประมาณ 10 ขวบ
ตอนบ่าย อยู่ๆ พ่อของเล้งก็หยิบเอากล่องหมากรุกจีนมาวางบนโต๊ะ
แล้วเรียกเล้งเข้าไปหา

/ เล้ง........ อยู่ว่างๆ มาเล่นหมากรุกจีนกับป๊าหน่อย
+ เล่นไม่เป็น อั๊วเล่นเป็นแต่หมากฮอส......... ป๊าเล่นหมากฮอสกับอั๊วละกัน
/ หมากฮอสมันไม่สนุก
+ หมากรุกจีนอั๊วไม่เคยเล่นอ่ะ
/ เดี๋ยวป๊าสอนให้ ...แป๊บเดียวก็เล่นเป็น
+ ก็ได้

เล้งตอบไปแบบแกนๆ โดยภายในใจเขารู้ดีว่า เขาไม่ได้อยากเล่น
เพราะลำพังหมากรุกไทยก็ยังไม่เคยเล่นและก็ไม่เคยเห็นเพื่อนในวัยเดียวกันเล่นด้วย
เห็นแต่ผู้ใหญ่เขาเล่นกัน

นี่หมากรุกจีน มีตัวหมากเป็นภาษาจีน ที่เขาเองก็ อ่านไม่ออกสักตัว
คงจะยิ่งยากขึ้นไปอีก แต่ก็ตอบรับพ่อไปด้วยความเกรงใจ
/..... ตี่... เหมือนกับฮ่องเต้ ถูกกินเมื่อไหร่ ถือว่า แพ้ทันที
สือ... รูปเหมือน เครื่องบิน เดินทะแยงได้เฉพาะในกรอบนี้
เฉีย... หรือช้าง เดินได้เฉพาะจุดเหล่านี้
กือ... เหมือนเรือ ในหมากรุกไทย เดินตรง กินตรง
เบ้.... หรือ ม้า เหมือนในหมากรุกไทย เดินโขยกรอบตัว
เผ่า... ทำหน้าที่คล้ายปืนใหญ่ เดินตรง แต่ต้อง กินข้าม หมายถึงต้องมีตัวคั่น 1 ตัว
จุก... เหมือนพลทหาร เดินทีละก้าวห้ามถอยหลัง ข้ามฝั่งแล้วถึงเลี้ยวซ้ายขวาได้

พ่ออธิบายตัวหมากและกติกาคร่าวๆให้เล้งฟัง
+ จำยากอ่ะ....
/ ค่อยๆเล่นเดี๋ยวก็จำได้หมด

พอเริ่มเดินหมากไปไม่กี่ก้าว

/ อ้าว...ทำไมเล้งเดินกือมาตรงนี้ล่ะ.......เผ่าป๊าอยู่ตรงนี้ กือจะโดนกินฟรีนะ
+ ก็อั๊วลืมไปอ่ะ..... ว่าเผ่ามันกินข้ามตัวได้ เห็นว่ามีจุกขวางอยู่แล้ว
/ เล้ง.......เอากลับไปเดินใหม่ ลื้อต้องเรียนรู้กฏ และจดจำให้ขึ้นใจ

อีกสักพัก

/ อ้าว แล้วเดินเบ้มาเฉยๆ ทำไมตรงนี้
+ ก็ไม่รู้จะเดินตัวไหนอ่ะ
/ ลื๊อรู้ไม๊ เซียนหมากรุกที่เค้าเก่งๆน่ะ เขานับก้าวเดินกันเลยนะ
บางทีแพ้หรือชนะ เพราะเดินช้าหรือเร็วกว่ากันในหมากตัวสำคัญแค่ก้าวเดียว
เพราะฉะนั้น ลื้ออย่าเดินหมากอย่างไม่มีจุดหมาย
เล้งต้องคิดให้ดีๆ ในทุกตาที่เล้งเดิน ว่าจะเดินตัวไหน แล้วเดินเพื่ออะไร

+ ก็อั๊วไม่ใช่เซียนอ่ะ ... เล่นไม่เป็น...... ไม่เคยเล่นด้วย

แล้วสักพัก

/ ......กุน......
+ อะไรอ่ะ......ป๊า
/ กุน หมายถึง รุก.......... เล้งแพ้แล้ว.............. เล่นใหม่ ๆ

วันนั้นเล้งเล่นแพ้ติดต่อกันอีกหลายกระดาน
จู่ๆ......... น้ำตาของเด็กน้อยก็ไหลออกมา

/ เฮ้ย เล้งร้องไห้ทำไม ตรุษจีน เขาไม่ให้โศกเศร้า
+ ไม่เห็นสนุกเลย เล่นยังไงก็แพ้ตลอด...... อั๊วไม่เล่นแล้ว

พ่อของเล้งร้องเสียงหลง กับเหตุการณ์ที่เขาไม่คาดคิด แล้วเล้งก็ลุกหนีไป

ต่อมาอีกหลายสัปดาห์ พ่อก็ชวนเล้งเล่นหมากรุกจีนอีก

/ ป๊าเล่นมายี่สิบปี ก่อนที่จะหยุดเล่นไป ลื๊อเพิ่งเล่นหัดเล่นไม่กี่วัน
เล่นไปเรื่อยๆ อีกหน่อยก็เก่งกว่าป๊า

พ่อพูดให้กำลังใจเล้ง แต่เล้งตอบไปตามประสาเด็กแก่นที่เรียนเลขเก่ง

+ ป๊าไม่ต้องมาโกหกอั๊วหรอก ต่อให้อั๊วเล่นอีกสิบปี ป๊าก็เล่นไปอีกสิบปีเหมือนกัน
กลายเป็นอั๊วเล่นทั้งหมดสิบปี ป๊าเล่นทั้งหมดสามสิบปี ยังไงป๊าก็ต้องเก่งกว่าอั๊ว

แล้วพ่อก็หัวเราะในลำคอเบาๆ

/.........ลื๊อนี่........เถียงเก่งจริงๆ......

หลังจากวันนั้น พ่อของเล้งก็เอ่ยปากชวนเล้งเล่นหมากรุกจีน ทุกครั้งที่เห็นว่าเล้งอยู่ว่างๆ
เขาเริ่มรู้สึกสนุกเพิ่มขึ้นบ้าง เดินหมากได้คล่องขึ้น และแพ้ช้าลง
แต่ด้วยความเป็นเด็ก เล้งจะจดจำหมากที่เดินแพ้ได้อย่างฝังใจ

แล้วเขาจะไม่เดินหมากรูปแบบเดิม.........ในสถานการณ์เดิมๆอีก
ซึ่งก็ได้ผล เพราะเขาไม่แพ้พ่อในรูปหมากแบบเดิม
แต่เขาก็ยังแพ้พ่อในรูปแบบอื่นๆ อีก..... ไม่รู้จักจบจักสิ้น

แล้วเขาก็เริ่มหงุดหงิดอีกครั้ง

+ อั๊วเดินไม่ชนะป๊าซักที
/ เล้งต้องใจเย็นๆ ค่อยๆเรียนรู้ ทำอะไรก็ตาม เล้งต้องมองคนที่ทำมาก่อน
แล้วให้นึกถึงคนที่จะมาทีหลังเล้งด้วย เล้งเพิ่งหัดเล่น
แล้วถ้าวันนี้เล้งเก่งเหมือนเซียนหมากรุกที่เขาเล่นมา 20-30 ปี
มันจะเป็นไปได้เหรอ แล้วเล้งคิดดู
ถ้าวันหน้าเล้งเล่นไป20 ปี แล้วมีเด็ก 10 ขวบเพิ่งหัดเล่น
มาเล่นชนะเล้งในตอนนั้น เล้งจะรู้สึกยังไง

/ จำเอาไว้ คนที่เรียนรู้มาก่อนย่อมต้องมีอะไรที่เหนือกว่า
และคนที่ตามมาทีหลังก็ต้องบางอย่างที่ด้อยกว่า
อย่างน้อยก็คือ........................ประสบการณ์

คืนนั้นเขานอนหลับไม่สนิท ด้วยความขุ่นมัวและกระวนกระวายในจิตใจ
จากกระดานหมากรุก

เช้าวันต่อมาที่โต๊ะอาหาร

+ อั๊วว่า ที่ป๊าไม่ไปเล่นกับคนอื่น เพราะป๊ากลัวแพ้ ชอบมาเล่นกับอั๊ว
เพราะเห็นอั๊วเล่นไม่ค่อยเป็น ป๊าจะได้ชนะทุกกระดาน
/ ชนะเล้ง แล้วป๊าได้อะไร
+ ได้แกล้งอั๊ว ไม่งั้นทำไมไม่เห็นป๊าไปเล่นกับคนอื่นเลย
/ ......กินข้าวเถอะ......... เดี๋ยวกับข้าวเย็นแล้วจะไม่อร่อย

อีกสักพักหนึ่ง ซึ่งจวนจะจบมื้อเช้านี้แล้ว

+ ป๊า......อั๊วเคยอ่านหนังสือมา เขาบอกว่าคนจีนงกวิชา
ชอบเก็บความรู้ไว้คนเดียวจนบางทีตายไปกับตัว
/ ....ยังไงอีก......
+ ลูกตัวเองบางทียังไม่สอนเลย บางคนก็สอนลูกรักแค่คนเดียว ลูกที่เหลือไม่สนใจ
เลือกที่รักมักที่ชัง วิชาหลายๆอย่างก็เลยตายไปพร้อมกับคนที่รู้....
ทั้งเรื่องอาหาร....เรื่องยา..... แล้วก็อีกเยอะแยะ จริงหรือเปล่าป๊า

/ เล้ง.......สิ่งที่เล้งรับรู้มาน่ะไม่ผิด...... แต่มันไม่ถูกทั้งหมดหรอก....
บางที.......มันก็มีเหตุผลเหมือนกัน

/ คนจีนน่ะ เขาจะไม่ถ่ายทอดวิชากันง่ายๆ เพราะถ้ามันถ่ายทอดกันได้ง่ายๆ
คนที่ได้รับก็อาจไม่รู้คุณค่า

/ อีกอย่าง สมัยก่อนเมืองจีน บ้านเมืองยังไม่เป็นปึกแผ่น
ผู้คนแบ่งเป็นก๊กเป็นเหล่า
แต่ละชนเผ่าก็มีความรู้หรือวิชาในกลุ่มของตัวเอง
เขาจะไม่ให้วิชาความรู้ของชนเผ่าตัวเองรั่วไหลไปให้คนอื่นหรอก....
เพราะบางทีมันจะย้อนกลับมาทำร้ายตัวเองได้
/ และเขาถือว่า......วิชาอะไรก็ตามที่มีคุณอนันต์ ในทางกลับกัน มันจะมีโทษมหันต์
เพราะประโยชน์หรือโทษมันไม่ได้อยู่ที่ตัววิชา.......... มันอยู่ที่ตัวคน

/ พูดง่ายๆว่า วิชาความรู้น่ะมีค่า แต่คนที่จะได้รับถ่ายทอดนั้น
มีคุณค่าเพียงพอต่อความรู้นั้นหรือเปล่า
แล้วถ้าคนได้รับการถ่ายทอดเอาไปใช้อย่างไม่เหมาะสม หรือไม่รู้คุณค่า
เจ้าของวิชานั่นแหละ...............จะมัวหมองและมีมลทิน

เล้งได้รับคำตอบ........แต่ยังไม่สบอารมณ์

+ป๊าก็เหมือนกันแหละ
/ เหมือนยังไง
+...........งกวิชา......... อั๊วเป็นลูกป๊ายังไม่ยอมสอนเลย
/ สอนอะไร
+ สอนเดินหมากรุก....... ให้อั๊วเก่งเหมือนป๊า......เป็นเซียนหมากรุก
/ ใครบอกเล้ง........ว่าป๊าเป็นเซียนหมากรุก
+ อาเจ็ก...........แต่บอกว่าป๊าเลิกเล่นมาเกือบสิบปีแล้ว........
/ ......แล้วบอกอะไรอีก
+ บอกแค่นี้แหละ.......แล้วทำไมป๊าเลิกเล่นอ่ะ
/ ....รีบกินเถอะ....... เดี๋ยวไปโรงเรียนสาย

พ่อของเล้งเลี่ยงการตอบคำถามของเขา

หลังจากที่เล้งเคยเลียบๆเคียงๆถามอยู่ 2-3 หน

จากนั้น เล้งก็ไม่ได้สนใจจะถามอีก

เขาคิดแค่ว่า........มันคงไม่มีอะไรมาก......แต่คงไม่ใช่ว่าจะไม่มีอะไรเลย
แล้ว.........คืนวันก็ผันผ่าน วันแล้ว วันเล่า กระดานแล้ว กระดานเล่า

+ ทำไมอั๊วไม่เคยเดินชนะป๊าสักทีอ่ะ
/ ก็ป๊ารู้ว่าลื๊อคิดยังไง แต่เล้งรู้หรือเปล่า ว่าป๊าเดินแต่ละหมากป๊าคิดยังไง
ลื๊อจะชนะป๊าได้ จะไม่ใช่เพราะเดินหมากเก่งกว่า
แต่นั่นหมายถึงเล้งต้องอ่านเกมป๊าออก แล้วเดินในหมากที่ป๊าอ่านลื๊อไม่ออก

และอย่าลืม......ในการแข่งขัน...........ต่างคนต่างอ่านใจและหมากซึ่งกันและกัน

+ แต่ อั๊วคิดง่ายๆว่า ถ้าหมากอั๊วกินหมากป๊าได้เยอะๆ
อั๊วก็น่าจะชนะได้เหมือนกัน

/ เล้งมองตื้นๆ ป๊าเดินให้เล้งกินตั้งหลายตัว เล้งก็เห็น

สุดท้ายเล้งก็แพ้อยู่ดี

+ อั๊วคิดว่าป๊าสอนอั๊วไม่หมด....... ป๊ากลัวอั๊วเก่งกว่าป๊า
แล้วชอบเดินหมากมาหลอกให้อั๊วกิน

/ ป๊าไม่ได้หลอก เล้งเดินมากินเอง เพราะเล้งคิดอย่างที่เล้งเข้าใจ.....ไม่กินก็ไม่ชนะ

/ เล้งค่อยๆคิดดู.......จะกินหมากคู่ต่อสู้ เล้งวางแผนไว้ก่อนหรือเปล่า
ถ้าไม่ได้วางแผนไว้แล้วเล้งไปกิน มันก็มีแค่ 2 อย่าง
เล่นกับหมู ก็คือ เค้าเผลอ เล่นกับเซียน ก็คือ เค้าหลอกให้กิน มีแค่นี้แหละ

/ อั๊วสอนเล้งให้เล่นหมากรุกเป็นได้ แต่สอนให้เป็นเซียนไม่ได้ อันนั้น
เล้งต้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง
/ แล้วเล้งจำไว้อย่าง. .... คำว่า.... เซียน... ไม่ใช่ให้ใครเอามาใช้เรียกตัวเอง
แล้วไม่ใช่ให้คนทั่วๆไปมายกย่องแล้วก็เป็นได้

จะได้เป็นเซียนในด้านไหน.......ต้องได้รับการยอมรับจากเซียนในวงการนั้นเท่านั้น
.........หลายเดือนต่อมา
วันนั้น เล้งเล่นแพ้ไปสัก 4-5 กระดานแล้ว และเริ่มหงุดหงิดแกมเบื่อ

+ อั๊วชักเบื่อเล่นหมากรุกกับป๊าแล้ว....... วันหลังอั๊วจะไม่เล่นอีกแล้ว
/ เล่นอีกตาๆ ........... แล้วไปกินข้าวกัน

กระดานต่อมานี้ พ่อจะดูเหมือนอ่านหมากเล้งไม่ขาด
ทั้งๆที่เล้งก็เดินหมากด้วยความมุทะลุ แต่แล้วเล้งก็ได้รุกฆาต และชนะพ่อไปแบบเฉียดฉิว

ตอนนั้นเล้งเข้าใจว่า พ่อแพ้เพราะใจพ่อไม่นิ่งหรือเผลอเรอ
เนื่องจาก เห็นความมุ่งมั่นอันตึงเครียดของเขา

/ ........ป๊าแพ้แล้ว......วันนี้พอแค่นี้ก่อน
+ ป๊าอย่าเพิ่งเลิกดิ....... อั๊วเพิ่งชนะแค่กระดานเดียวป๊าก็เลิกแล้ว
ป๊ากลัวแพ้อั๊วหลายๆกระดานอั๊วรู้

พ่อได้แต่ยิ้มน้อยๆ แล้วบอกว่า

/ ..พอแล้ว...... พอแล้ว.......... ได้เวลากินข้าวแล้ว
+ ป๊าไม่ต้องเอาเรื่องกินข้าวมาอ้าง .......ป๊ากลัวแพ้อีก.........อั๊วรู้

ไม่มีความคิดเห็น: